หากคุณเป็นคนที่มีความกลัวหรือมีจิตปรุงแต่งในด้านเรื่องสยองขวัญที่แข็งแกร่งประมาณหนึ่ง คงพอจะเคยจินตนาการกันอยู่บ้างว่าถ้าเกิดเรื่องสยองกับเราจะทำอย่างไร
ไม่ว่าจะในหนัง นิยาย หรือเรื่องเล่าน่ากลัวนั้น จะต้องมีพล็อตติดอยู่ในที่มืด แคบ แล้วเจอเหตุประหลาด หรือพล็อตทำนองบังเอิญหลุดไปในมิติอื่นที่เหลือแค่เราคนเดียวในโลกที่รกร้าง
ความกลัวลึกๆ ทำนองนี้หลายคนคงเคยสัมผัสได้ เวลาเราทำกิจกรรมร่วมกันคนมากๆ แล้วถูกสั่งให้หลับตา บางคนจะกระวนกระวาย กลัวว่าจะถูกเพื่อนๆ ทิ้งเอาไว้คนเดียวในขณะหลับตา
หรือแม้แต่ตอนเราอาบน้ำสระผมในห้องน้ำคนเดียว แล้วหลับตาเพื่อไม่ให้ฟองของแชมพูเข้าตา ในใจเรามักระแวงว่า พอลืมตามารอบข้างเราเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่ควรมองเห็น
เรื่องสยองเล็กๆ แบบนี้ส่วนมากก็เป็นได้แค่ความกลัวเล็กๆ ในใจ แต่ถ้าเกิดเหตุบังเอิญหรือความผิดพลาดที่ทำให้เราเหมือนหลุดไปในมิติของวิญญาณจริงๆ แค่คิดก็สั่นๆ แล้วล่ะ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับหญิงคนหนึ่งผู้เป็นผู้โดยสารของสายการบิน Air Canada เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน Tiffani Adams เดินทางจากเมืองควิเบกไปยังโตรอนโต ซึ่งใช้ระยะเวลาราว 90 นาที
ในระหว่างการเดินทางนั้นเธอได้เผลอหลับไปบนที่นั่งของตนเอง ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน แต่เธอก็ตื่นขึ้นมาพบกับความมืดมิด…
เธออ้างว่าตอนที่ตื่นขึ้นมานั้นเธอยังคาดเข็มขัดอยู่กับเก้าอี้อยู่เลย แล้วบนเครื่องบินมืดสนิท ข้างนอกก็มืด ไม่มีใครอยู่เลยสักคน แถมยังหนาวอีกด้วย
เธอพยายามโทรหาเพื่อนเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่แบตโทรศัพท์กลับหมดเกลี้ยง และเธอไม่สามารถชาร์จแบตกับที่เสียบบนเครื่องได้ เพราะเครื่องยนต์ไม่ทำงาน
Tiffani เล่าว่าในตอนนั้นเธอแตกตื่นถึงขีดสุด มันเหมือนกับเป็นฝันร้ายที่เธออยากจะหลุดพ้น แต่ทำให้ตัวเองตื่นขึ้นมาไม่ได้ เพราะเรื่องแบบนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้นได้เลย
เธอลองค้นหาไปตามจุดต่างๆ ของเครื่องบินเผื่อมีอะไรที่สามารถช่วยให้เธอขอความช่วยเหลือได้ จนกระทั่งไปเจอไฟฉายในห้องนักบิน จึงใช้มันพาตัวเองไปเปิดประตูทางเข้าเครื่องได้
เมื่อเปิดประตูออกเธอก็ต้องพบกับระดับความสูงจากประตูถึงพื้นเบื้องล่างราว 15 เมตร…ความสูงระดับนี้นั้นถ้าโดดลงไปไม่พิการก็ตายแน่ๆ
เธอจึงใช้ไฟฉายในมือส่องออกไปภายนอกเพื่อส่งสัญญาณว่ามีคนติดอยู่บนเครื่องบินนี้ หวังว่าใครสักคนมาบังเอิญเห็นเข้า
เป็นโชคดีของเธอที่มีเจ้าหน้าที่ดูแลสัมภาระเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเข้ามาช่วยพาเธอลงจากเครื่องบินด้วยความตกตะลึง พร้อมกับถามว่า “พวกเขาลืมผู้โดยสารทั้งคนไว้บนเครื่องได้ยังไงเนี่ย”
เจ้าหน้าที่คนนั้นส่งเธอถึงอาคารของสนามบินที่ที่เธอได้เห็นแสงสว่างและผู้คนเสียที และได้เจอและพูดคุยกับตัวแทนของสายการบิน
เธออ้างว่าหลังจากเหตุการณ์นี้ทำให้เธอมีปัญหาในการนอนหลับ เธอมักสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความหวาดกลัวว่าตนเองถูกขังอยู่ในที่มืดๆ คนเดียว
ส่วนทางโฆษกของ Air Canada นั้นก็ได้ยืนยันว่าเรื่องราวนี้เป็นความจริง ขณะนี้ทางสายการบินได้ติดต่อพูดคุยกับ Tiffani อยู่เรื่อยๆ และกำลังสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่
เรียบเรียงโดย #เหมียวม่วง
ที่มา LADbible และIndependent
0 ความคิดเห็น